Detail :
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ 2567 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายรวิศุทธ์ ณิตกุลเศรษฐ์ และนายสุรเชษฐ์ โพธิ์แสง รองเลขาธิกรสถาบันยุทัศน์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะบุคลากรสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) และแกนนำนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC) และสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เข้าพบและให้กำลังใจนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังเร่งรัดดำเนินการปราบปรามการล้กลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า
.
นายรวิศุทธ์ คณิตกุลเศรษฐ์ รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า
ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่รับฟังข้อกังวลจากเสียงเด็กและเยาวชนด้วยการเร่งรัดดำเนินการปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ลงพื้นที่กวดข้นและปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า เพราะป้จจุบันการลูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจการบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบในเยาวชนไทย ปี 2565 ซึ่งเป็นการสำรวจของโครงการ Global Youth Tobacco Survey จากองค์การอนามัยโลก พบเด็กและเยาวชนอายุ 13-15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5.3 เท่า จาก 3.3% ในปี 2558 เพิ่มเป็น 17.6% ในปี 2565
.
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าประกอบด้วยนิโคติน สารแต่งกลิ่นและรส และสารประกอบอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่
เป็นพิษและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะพัฒนาทางสมองของเด็กและวัยรุ่น ซึ่งช่วงวัยนี้จะมีความไวต่อการเสพดิดนิโดตินเป็นอย่างมาก บุหรี่ไฟฟ้านั้นมุ่งเป้าทำการตลาดกับเด็กและเยาวชน โดยใช้การแต่งกลิ่นและรส พบว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีการแต่งกลิ่นรสถึง 16,000 รูปแบบในปี 2560 ซึ่งกลิ่นรสโดยส่วนมากจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กและเยาวชน และยังช่วยกลบความรุนแรงของนิโคติน ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่ากลิ่นรสที่ดึงดูดใจของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นปัาจัยให้เริ่มการทดลองใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มตันให้เกิดการเสพติดและใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำต่อไป ดั่งนั้นมาตรการปกป้องเด็กและเยาวชนไทยไม่ให้เป็นนักสูบหน้าใหม่ในอนาคตคือ การยังคงซึ่งมาตรการการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และการปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจึงเป็นมาตรการหนึ่งที่สำคัญต่อการป้องกันเด็กและเยาวชนไทยอย่างยิ่ง