วันที่ 31 ก.ค. 2567 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับหน่วยงานองค์กรภาคีเครือข่าย จัดเวทีสนทนานโยบายสาธารณะ (Policy Dialogue) ครั้งที่ 5 หัวข้อ บุหรี่ไฟฟ้า ฆ่าเยาวชนไทย “อย่าปล่อยให้...ฆาตกรลอยนวล” เพื่อให้ทุกภาคส่วนในสังคมรับรู้และตระหนักถึงปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ พร้อมร่วมกันวิเคราะห์และเสนอทางออกในการรับมือกับปัญหาของบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ตลอดจนประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกว่า 150 คน โดยมี นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
โดยนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวว่า ความน่าเป็นห่วงของบุหรี่ไฟฟ้าต่อเด็กและเยาวชน คือเป็นสินค้าที่ไม่เลือกว่าจะเป็นเด็กดีหรือไม่ดี เด็กรวยหรือจน เด็กที่มีการศึกษาสูงหรือต่ำ ซึ่งจะแตกต่างจากบุหรี่มวนในอดีตที่มักพบในเด็กกลุ่มเสี่ยง แต่บุหรี่ไฟฟ้ากลับระบาดไปถึงเด็กและเยาวชนในทุกกลุ่ม เนื่องด้วยหน้าตา กลิ่นสี รูปลักษณ์ และยังไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะในมิติการสูบเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังพบว่าร้านค้าหลายแห่งมีการจ้างวานให้เด็กและเยาวชนเป็นผู้นำไปจำหน่าย โดยให้ค่าจ้างราววันละ 400-600 บาท
“บุหรี่ไฟฟ้ามีการพัฒนามาหลาย generation แต่ที่น่ากลัวคือปัจจุบันมีการทำออกมาเลียนแบบผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นกล่องลูกอม ถุงยางอนามัย อุปกรณ์การเรียน หรือแม้แต่กล่องนม ฉะนั้นแม้จะไม่ต้องหลบซ่อน แต่พ่อแม่ก็อาจไม่มีทางรู้เลยว่าลูกหลานของเขาแอบพกบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ และอยากเทียบว่าบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นเหมือนกับสินค้าทดลองในห้าง เพราะอุตสาหกรรมยาสูบเขาก็ไม่ได้ต้องการให้สูบเพียงแค่บุหรี่ไฟฟ้า แต่บุหรี่มวนก็ยังผลิตอยู่ และการที่จะข้ามไปสูบแบบมวนหรือสูบไปด้วยกันทั้งคู่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ยาก” นายพชรพรรษ์ กล่าว