วันที่ 8 สิงหาคม 2568 ณ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช สถาบันยุวทัศน์

แห่งประเทศไทย (ยท.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมสัญจรสร้างองค์ความรู้สุขภาวะทางเพศปลอดภัย “School Tour

ชัวร์ เรื่องเพศ” ภูมิภาคใต้ โดยมีสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมเข้าร่วมกว่า 20 แห่ง พร้อมตั้งเป้าสนับสนุนเด็กและเยาวชนเข้าถึงบริการถุงยางอนามัยลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นและลดโรคติดต่อ

ทางเพศสัมพันธ์

.

นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายการยุติการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ภายในปี พ.ศ. 2573 มีเป้าหมายให้คนไทยห่างไกลโรคและภัยสุขภาพ ผ่านการดูแลสุขภาพครบทุกมิติ ทั้งมาตรการคัดกรอง ป้องกัน ค้นหา ดูแลรักษาและยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างทั่วถึง โดยในปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา หน่วยบริการภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) ให้กับเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 11–20 ปี ไปแล้วกว่า 2 ล้านโดส และในปี พ.ศ. 2568 ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มเติมอีก 1 ล้านโดส พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้สำหรับป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ให้นักเรียน นักศึกษา และส่งเสริมพฤติกรรมทางเพศอย่างรับผิดชอบด้วยการใช้ถุงยางอนามัย สนับสนุนการตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจเอชไอวี (HIV Self Test) และให้บริการสุขภาพที่เป็นมิตร ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และลดโอกาสการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม นับเป็นการส่งเสริมสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย”

.

นายชัยชนะ ยังกล่าวต่อด้วยว่า “จึงใช้โอกาสนี้ขอชื่นชมสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนงานด้านสุขภาวะทางเพศอย่างต่อเนื่อง แม้ประเทศไทยจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบประเด็นดังกล่าวอยู่จำนวนหนึ่ง แต่การทำงานของ ยท. สามารถเข้าถึงสถานศึกษาและกลุ่มเป้าหมาย

ที่เป็นวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี จึงขอฝากให้ทาง ยท. ร่วมมือกับ สสส. ดำเนินกิจกรรมลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันลดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และส่งเสริมสุขภาวะทางกายและใจที่ดีของเยาวชนต่อไปในอนาคต”

.

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทในการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน ดำเนินงานเชิงรุกเพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และพฤติกรรมที่ปลอดภัยในด้านสุขภาวะทางเพศ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน เพื่อป้องกันการเกิดพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น หนึ่งในแนวทางที่ สสส. ให้ความสำคัญ คือ การส่งเสริมให้การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิถีชีวิตประจำวัน (Normalize condom) รวมถึงการส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัยอย่างทั่วถึงและปลอดภัย โดยดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการสื่อสารเชิงบวกและส่งเสริมการเข้าถึงบริการถุงยางอนามัยของคนรุ่นใหม่ ซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนกลไกที่เข้มแข็ง ทั้งการขับเคลื่อนเชิงนโยบาย และปฏิบัติการในระดับพื้นที่ สนับสนุนการจัดตั้งจุดกระจายถุงยางอนามัยในสถาบันการศึกษาที่สมัครใจ ร่วมกับชุมชน และศูนย์บริการสาธารณสุข รวมถึงพัฒนาการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มเยาวชน ผ่านสื่อสร้างสรรค์ทางช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

เช่น TikTok, YouTube, Instagram เพื่อสร้างความตระหนักและเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่อการใช้ถุงยางอนามัยอย่างเหมาะสม

.

ด้านนายสุรเชษฐ์ โพธิ์แสง รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) กล่าวด้วยว่า “ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ปี พ.ศ. 2567 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) รายใหม่ 8,124 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 48 หรือเกือบครึ่ง เป็นกลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 15-24 ปี ในขณะที่อัตราป่วยโรคซิฟิลิสและโรคหนองในในกลุ่มเยาวชนสูงขึ้นเป็น 114.1 คน และ 108.6 คน ต่อประชากรแสนคน เฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช พบอัตราป่วยจากหนองในในกลุ่มเยาวชน อายุระหว่าง 15-24 ปี อยู่ที่ 36.9 คน ต่อประชากรแสนคน เพิ่มขึ้น 4 เท่า จากปี 2565 และซิฟิลิส พบอัตราป่วย 51.4 คน ต่อประชากรแสนคน เพิ่มขึ้น 2.4 เท่า จากปี พ.ศ. 2565 จึงเป็นที่น่ากังวลว่า

ในหลายจังหวัดพบอัตราการป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของเด็กและเยาวชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง“ ยท. จึงดำเนินการจัดกิจกรรมสัญจรสร้างองค์ความรู้สุขภาวะทางเพศปลอดภัย ภายใต้แนวคิด School Tour : ชัวร์ เรื่องเพศ ทั่วประเทศ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดปทุมธานี จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดนครศรีธรรมราช

เพื่อสร้างองค์ความรู้เรื่องถุงยางอนามัยในการป้องกันโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นให้กับเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา รวมถึงประชาสัมพันธ์ ช่องทางการรับบริการถุงยางอนามัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดจุดกระจายถุงยางอนามัยในสถานศึกษาและส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัย ที่เป็นมิตรกับเด็กและเยาวชน ตามยุทธศาสตร์ด้านถุงยางอนามัย (พ.ศ. 2563-2573) ภายใต้ยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560–2573 และสนับสนุนการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพ

ตามพระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 อีกด้วย”